สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ "สแลนกันแดด" สำหรับบ้านและธุรกิจของคุณ

เน้นขายส่ง ในราคาถูกที่สุด

รับสมัครตัวแทนจำหน่าย

เนื่องจากเรานำเข้าสินค้าเป็นปริมาณมาก จึงทำให้ได้ต้นทุนที่ถูกกว่าเจ้าอื่นๆ

พร้อมรับประกันคุณภาพสินค้า การันตีด้วยยอดขายกว่า 10,000 ชิ้น



สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อสแลนกันแดดสำหรับบ้านและธุรกิจของคุณ

ทำไมต้องใช้สแลนกันแดด?

สภาพอากาศที่ร้อนแรงและแสงแดดที่แรงกล้าของประเทศไทยทำให้การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งสำหรับบ้านและธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในสวน เกษตรกรรม หรือธุรกิจที่ต้องการลดอุณหภูมิในพื้นที่กลางแจ้ง "สแลนกันแดด" จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความคุ้มค่า การเลือกสแลนกันแดดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อปกป้องพื้นที่ของคุณจากแสงแดดได้อย่างดี

สแลนกันแดดคืออะไร?

สแลนกันแดด (Shade Net) เป็นผ้าตาข่ายที่ผลิตจากวัสดุพลาสติกชนิดพิเศษ เช่น โพลีเอทิลีน (Polyethylene) ซึ่งมีคุณสมบัติในการทนทานต่อสภาพอากาศร้อนแรงและรังสียูวี ผ้าตาข่ายนี้ถูกออกแบบมาให้มีรูพรุนเพื่อให้แสงผ่านได้บางส่วน แต่ในขณะเดียวกันยังช่วยลดความร้อนและแสงแดดที่ส่องถึงพื้นผิวด้านล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สแลนกันแดดมีหลายระดับความหนาแน่น ซึ่งแต่ละระดับจะมีความสามารถในการกรองแสงที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางรุ่นอาจกรองแสงได้ 50% หรือบางรุ่นสามารถกรองแสงได้ถึง 90% ทำให้สามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมของสถานที่และวัตถุประสงค์การใช้งาน

ตัวอย่างการใช้สแลนกันแดด

สแลนกันแดด ตาข่ายกรองแสง สีดำ

สแลนกันแดด 50% สีดำ ความกว้าง 2.0 เมตร ความยาว 90 เมตร/100 เมตร

สแลนกันแดด 60% สีดำ ความกว้าง 2.0 เมตร ความยาว 90 เมตร/100 เมตร

สแลนกันแดด 70% สีดำ ความกว้าง 2.0 เมตร ความยาว 90 เมตร/100 เมตร

สแลนกันแดด 80% สีดำ ความกว้าง 2.0 เมตร ความยาว 90 เมตร/100 เมตร

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสแลนกันแดด

การเลือกสแลนกันแดดที่เหมาะสมควรพิจารณาจากหลายปัจจัยสำคัญ ดังนี้:

ระดับการกรองแสง (Shade Percentage)

หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อสแลนกันแดดคือระดับการกรองแสง ซึ่งจะบอกถึงความสามารถในการลดแสงแดดที่ส่องเข้ามา โดยสแลนกันแดดมีระดับการกรองแสงตั้งแต่ 30% ไปจนถึง 90% การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับความต้องการ เช่น:

• สแลนกรองแสง 50-70% เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน สวน หรือพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างเล็กน้อย
• สแลนกรองแสง 70-80% เหมาะสำหรับการใช้งานในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ต้องการป้องกันแสงแดดและความร้อนอย่างมาก

ขนาดและพื้นที่ในการติดตั้ง

คุณควรตรวจสอบพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งสแลนกันแดดให้ละเอียด เพื่อที่จะเลือกซื้อสแลนในขนาดที่เหมาะสม การเลือกขนาดที่ถูกต้องจะช่วยให้การติดตั้งสะดวก และทำให้ปกป้องพื้นที่ได้ครอบคลุมอย่างทั่วถึง

ความทนทานต่อสภาพอากาศ

สแลนกันแดดต้องมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย เช่น ลม ฝน และแดดจัด เพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน การเลือกสแลนที่มีคุณสมบัติทนทานจะช่วยลดการสึกหรอและความเสียหายจากการใช้งานในระยะยาว

การใช้สแลนกันแดดในภาคเกษตรกรรม

สำหรับการเกษตร สแลนกันแดดสามารถใช้ได้ในหลายวิธี เช่น การคลุมเรือนเพาะชำ หรือการสร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับการปลูกพืชที่ต้องการแสงน้อย นอกจากการป้องกันแสงแดดแล้ว สแลนยังช่วยป้องกันฝนที่หนักเกินไปซึ่งอาจทำให้ดินในแปลงพืชเสียหาย สแลนกรองแสงประมาณ 50-70% เป็นที่นิยมใช้ในงานเกษตร เนื่องจากช่วยให้พืชได้รับแสงเพียงพอ แต่ไม่ร้อนจนทำให้พืชเหี่ยวเฉา

สแลนกันแดดยังช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนแมลงศัตรูพืชอีกด้วย เมื่อใช้ร่วมกับวิธีการควบคุมแมลงอื่นๆ สแลนจะทำหน้าที่เสริมให้พืชเติบโตได้ดีขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแมลงระบาดบ่อยครั้ง

การใช้สแลนกันแดดในธุรกิจบริการ

สำหรับธุรกิจที่ให้บริการกลางแจ้ง เช่น ร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่มีโซนกลางแจ้ง สแลนกันแดดเป็นทางเลือกที่ดีในการลดอุณหภูมิและให้ความสบายกับลูกค้า การใช้สแลนสามารถสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่น โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างที่ซับซ้อน การเลือกสแลนที่มีการกรองแสงสูงประมาณ 70-80% เหมาะสมสำหรับการสร้างร่มเงาในบริเวณกลางแจ้ง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายตัวเมื่อใช้บริการในพื้นที่กลางแจ้ง

ข้อดีของสแลนกันแดด

• ลดความร้อน: สแลนกันแดดสามารถลดความร้อนจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พื้นที่ที่ใช้สแลนเย็นลงและช่วยให้พืชหรือคนในพื้นที่นั้นสบายขึ้น
• ป้องกันรังสียูวี: สแลนบางประเภทสามารถป้องกันรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อพืชและมนุษย์ได้
• น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย: การติดตั้งสแลนไม่ยุ่งยากและใช้เวลาน้อย เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งชั่วคราวและถาวร
• ราคาย่อมเยา: เมื่อเทียบกับการก่อสร้างโครงสร้างถาวร สแลนกันแดดมีราคาที่ถูกกว่ามาก แต่ให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในการป้องกันแสงแดด
• หลากหลายสีและขนาด: สแลนมีหลายสี หลายขนาด และหลายระดับการกรองแสง ทำให้สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ได้

ข้อเสียของสแลนกันแดด

• ความทนทานต่ำในระยะยาว: แม้ว่าสแลนกันแดดจะทนทานต่อแสงแดดและสภาพอากาศ แต่เมื่อใช้งานเป็นเวลานานอาจเกิดการสึกหรอ เช่น ขาด หรือซีดจางได้
• การรับแสงที่ไม่เท่ากัน: เนื่องจากสแลนกันแดดเป็นผ้าตาข่าย แสงที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่อาจไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้พื้นที่บางส่วนได้รับแสงมากกว่าที่อื่น
• การระบายอากาศ: ในบางกรณีการใช้สแลนกันแดดที่มีระดับการกรองแสงสูงอาจทำให้อากาศไหลผ่านได้ยากขึ้น ซึ่งอาจทำให้พื้นที่ภายในรู้สึกอับชื้นหรือร้อนเกินไป